กรดเกลือ (HCl) 35% หรือ กรดไฮโดรคลอริก (Hydrochloric Acid) 35% สารประกอบเคมี ประเภทกรดละลายในน้ำ โดยเป็นสารละลายไฮโดรเจนคลอไรด์ในน้ำ ใช้สำหรับ ล้างตะกรัน ล้างหินปูน ในระบบหล่อเย็น
กรดเกลือ (HCl) 35% เป็นสารละลายใส มีกลิ่นฉุน มีฤทธิ์ผุกร่อนอย่างรุนแรง เมื่อสัมผัสกับน้ำ อาจมีควันแสบจมูก
กรดเกลือ (HCl) 35% สามารถนำไปใช้ในหลายอุตสาหกรรม เช่น
- ระบบบำบัดน้ำเสีย ใช้สำหรับปรับสภาพความเป็นด่างของน้ำให้เป็นกรด ใช้ในกระบวนการฆ่าเชื้อในระบบปรับปรุงคุณภาพน้ำ
- อุตสาหกรรมฟอกหนัง ใช้เป็นสารฟอกหนัง ฟอกสี
- อุตสาหกรรมชุบเคลือบโลหะ
- อุตสาหกรรมอาหาร
- อุตสาหกรรมสี ใช้เป็นตัวทำละลายในอุตสาหกรรมผลิตสี และผลิตภัณฑ์ที่ต้องใช้ตัวทำละลายกรด
- อุตสาหกรรมน้ำยาทำความสะอาด ใช้เป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดโลหะ
- อุตสาหกรรมปิโตรเคมี กระบวนการเตรียมสารประกอบอินทรีย์ เช่น ไวนิลคลอไรด์โมโนเมอร์ เป็นต้น
- อุตสาหกรรมโรงชุบและโลหะ
- อุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนยานยนต์
- อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์
- อุตสาหกรรมถุงมือยาง
- อุตสาหกรรมกระดาษ
ข้อมูลความอันตรายของ กรดเกลือ (HCl) 35%
- ระบบทางเดินหายใจ กรดเกลือทำให้เกิดอาการระคายเคืองจมูก ลำคอ และเยื่อบุทางเดินหายใจ เมื่อสูดดมเข้าไป 35 ppm จะเริ่มเกิดอาการ หากสูดดมเข้าไป 50 – 100 ppm อาการจะรุนแรง ทำให้เนื้อเยื่อบวม จนอุดตันทางเดินหายใจและ suffocation ได้ ผู้ที่ได้รับพิษรุนแรงจะมีอาการหายใจหอบ หายใจไม่ทัน เนื่องจากภาวะอุดกั้นหลอมลมขนาดเล็ก บางรายอาจเกิดภาวะปอดบวมน้ำซึ่งอันตรายอย่างมาก สำหรับในเด็ก อาจเกิดอาการคล้ายหืดหอบ
- สมดุลกรด – เบส ในร่างกาย อาจเกิดขึ้น เมื่อได้รับกรดเกลือในระบบทางเดินอาหาร จากการรับประทานกรดเกลือเข้าไป จะทำให้มีอัตราการเผาผลาญสารอาหารมากกว่าปกติ อาจทำให้เสียชีวิตได้
- ผิวหนัง เมื่อได้รับพิษจากกรดเกลือโดยการสัมผัสบริเวณผิวหนังในปริมาณมาก จะทำให้เกิดแผลลึกคล้ายไฟไหม้ น้ำร้อนลวก และอาจจะเกิดแผลที่เยื่อบุ หรือถ้าได้รับปริมาณน้อย (สัมผัสกรดเกลือที่เจือจาง) จะทำให้เกิดผื่นผิวหนังอักเสบและระคายเคือง หากเกิดในเด็กจะมีความรุนแรงมากกว่าในผู้ใหญ่
- พิษต่อตา ไอระเหยของไฮโดรเจนคลอไรด์ หรือกรดเกลือ ทำให้เซลล์กระจกตาตาย เลนต์ตาเกิดเป็นต้อกระจก และความดันภายในลูกตาเพิ่มขึ้นจนเป็นต้อหินได้ กรณีที่สัมผัสกับสารละลายที่เจือจาง จะเกิดแผลที่กระจกตาด้านนอก
- ระบบทางเดินอาหาร ก่อให้เกิดอาการปวดท้องอย่างรุนแรง กลืนลำบาก คลื่นใส้ อาเจียน การได้รับพิษโดยการกินกรดไฮโดรคลอริกเข้มข้น จะทำให้เกิดการหลุดลอกของเยื่อบุหลอดอาหารและกระเพาะอาหารเกิดเป็นแผล ภายในมีเลือดออก แผลอาจทะลุได้
- ระบบหัวใจและหลอดเลือด เกิดขึ้นเมื่อได้รับพิษจากการกิน การสัมผัสในปริมาณสูง โดย HCl ทำให้ความดันโลหิตต่ำ เกิดภาวะเลือดออกในทางเดินอาหาร และระบบสมดุลน้ำและของเหลวในร่างกายเสียไป ทำให้ปอดทำหน้าที่ผิดปกติ
ข้อควรระวังและแนวทางปฏิบัติ เมื่อใช้ กรดเกลือ (HCl) 35%
- เนื่องจากกรดเกลือมักจะเป็นพิษต่อทางเดินหายใจ และผิวหนังเป็นส่วนใหญ่ จึงควรสวมหน้ากากป้องกันไอกรด, ถุงมือกันสารเคมีชนิดยาวถึงศอก, แว่นตานิรภัย, รองเท้าที่ทำจาก PVC และเสื้อผ้าคลุมตาม
- ควรจัดให้ปฏิบัติงานในห้องที่มีระบบระบายอากาศดี
- ควรจัดให้มีก๊อกน้ำ และอ่างล้างในสถานที่ปฏิบัติงาน
- ระวังการสัมผัสถูกซ้ำ ๆ หรือต่อเนื่องเป็นเวลานาน
- ควรเก็บภาชนะให้ปิดแน่นเสมอ, เก็บไว้ในที่แห้งและเย็น, ระวังอาจเกิดแรงดันในภาชนะได้
- ถ้าสัมผัสถูกให้เปิดน้ำล้างบริเวณที่สัมผัสถูก เช่น ตา, ผิวหนัง, ด้วยน้ำปริมาณมาก ๆ อย่างน้อย 15 นาที พร้อม ๆ ไปกับถอดเสื้อผ้า และรองเท้าที่เปื้อนออก โดยเฉพาะบริเวณดวงตา เพื่อความแน่ใจว่าล้างสารพิษออกหมด ให้ใช้นิ้วมือดึงหนังตา เปิดล้างด้วยน้ำสะอาดด้วย
- หากหายใจเข้าไป ให้นำผู้ป่วยออกมาที่ที่มีอากาศบริสุทธิ์ หากหายใจติดขัด ให้ออกซิเจน
- หากผู้ป่วยไม่หายใจ ให้รีบทำการช่วยหายใจ วิธีที่ควรใช้คือ ปาก ต่อ ปาก
- หากรับประทาน และผู้ป่วยมีสติให้ดื่มน้ำมาก ๆ ห้ามทำให้อาเจียนเด็ดขาด
- รีบนำผู้ป่วยส่งแพทย์
ท่านสามารถชมผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของอควาเคมีได้ที่ ผลิตภัณฑ์ของ อควาเคมี และชมผลงานบางส่วนของอควาเคมีได้ที่ ผลงานของ อควาเคมี
หากท่านต้องการให้ทางบริษัท นำตัวอย่างน้ำจากแหล่งน้ำของท่านเพื่อตรวจคุณภาพน้ำ, เข้าไปสำรวจสถานที่ติดตั้ง, ต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือ ขอใบเสนอราคา มกรุณาติดต่อเรา ได้ที่ โทร. 08-1860-3834, 0-2561-1540 และ 0-2561-1676 หรืออีเมล ทางบริษัท อควาเคมี จำกัด ยินดีให้บริการท่าน
งดจำหน่ายชั่วคราว